Last updated: 16 ส.ค. 2565 | 1145 จำนวนผู้เข้าชม |
โดยทั่วไปเนื้อผ้าที่ใช้ในการตัดชุดสูทหลักๆสามารถแบ่งออกได้ตามคุณสมบัติของเนื้อผ้าได้ดังต่อไปนี้
เนื้อผ้าแต่ละชนิดมีที่มาแตกต่างกันทำให้มีวิธีการบำรุงรักษาและมีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกัน
2. ผ้าฝ้าย / ผ้าคอตต้อน
เป็นเส้นด้ายที่มาจากธรรมชาติ มีคุณสมบัติพิเศษที่ระบายอากาศได้ดีในหน้าร้อน ซับความชื้นได้ดี แต่จะยับง่ายกว่าผ้าวูลและผ้า โพลีเยสเตอร์
3. ผ้าTR / โพลีเอสเตอร์
เป็นเส้นด้ายเส้นใยสังเคราะห์ มีคุณสมบัติเบา เนื้อผ้ายับยาก สวมใส่สบาย ในปัจจุบันคุณภาพของเส้นด้ายมีการพัฒนาไปตามเทคโนโลยีที่ทำให้มีคุณสมบัติพิเศษเพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น
3.1 เนื้อผ้าที่เคลือบสารสะท้อนนำ้ ป้องกันของเหลวหกใส่
3.2 Wrinkle Frree เนื้อผ้าที่ยับยาก สามารถสวมใส่ได้ทั้งวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องรอยยับ
3.3 Soft touch ให้สัมผัสที่เหมือนผ้าคอตตอน นุ่ม ลื่น เนื้อผ้าเนียน
3.4 No Bleaching ไม่ตกสี เวลาผ่านการใช้งานหรือซัก
3.5 Horizontal Stretch เนื้อผ้าที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถตัดเป็นชุดสูทเข้ารูปได้อย่างสวยงาม
1. ผ้าวูล การบำรุงรักษา - ผ้าวูลต้องส่งซักแห้งเท่านั้น เพื่อรักษาคุณสมบัติของเนื้อผ้าและช่วยยืดอายุการใช้งานของเสื้อสูทได้เป็นอย่างดี
ข้อควรระวัง ห้ามซักเครื่องโดยเด็ดขาดจะทำให้เสื้อสูทเสียทรง หรือแม้แต่ซักมือขยี้แบบแรงๆก็ไม่แนะนำ ห้ามชุดสูทมาตากแดดเพราะอาจจะทำให้เส้นด้ายหดตัว / ห้ามใช้ผงซักฟอกทุกชนิดในการทำความสะอาดเสื้อสูท
2. ผ้าฝ้าย / ผ้าคอตตอน การบำรุงรักษา เมื่อเนื้อผ้าตัดเป็นเสื้อสูทแล้วควรส่งซักแห้งเท่านั้นจะช่วยถนอมทรงของเสื้อได้เป็นอย่างดี
ข้อควรระวัง ห้ามซักเครื่องโดยเด็ดขาด เพราะการซักเครื่องจะทำให้เส้นด้ายฟูและอาจจะเกิดขนขึ้นตามเนื้อผ้า / ห้ามใช้ผงซักฟอกทุกชนิดในการทำความสะอาดเสื้อสูท
3. ผ้า TR / โพลีเยสเตอร์ ถึงแม้เส้นด้ายง่ายต่อการดูแล แต่ก็ยังแนะนำการบำรุงรักษา เมื่อเนื้อผ้าตัดเป็นเสื้อสูทแล้วควรส่งซักแห้งเท่านั้นจะช่วยถนอมทรงของเสื้อได้เป็นอย่างดี
ข้อควรระวัง ห้ามซักเครื่องโดยเด็ดขาด / ห้ามใช้ผงซักฟอกทุกชนิดในการทำความสะอาดเสื้อสูท / วิธีการรีดสำคัญเพราะเส้นด้ายชนิดนี้จะไวต่อความร้อนอย่างมาก ต้องใช้ความร้อนตำ่ในการรีด หรือเตารีดไอนำ้เท่านั้น